Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 178,015
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 175,150
3 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 174,492
4 100,000D_เครื่องมือช่าง 174,379
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 171,776
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 170,888
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 169,785
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 169,186
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 162,891
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 159,628
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 159,565
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 158,767
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 69,310
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 64,036
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 52,118
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 44,838
17 Industrial Provision co., ltd 40,953
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 39,642
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 37,578
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 35,873
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 34,757
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 33,083
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 32,536
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 32,362
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 28,749
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 27,758
27 P.D.S. Automation co.,ltd 24,156
28 AVERA CO., LTD. 23,845
29 เลิศบุศย์ 22,838
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 21,621
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 21,535
32 Electronics Source Co.,Ltd. 21,278
33 แมชชีนเทค 21,103
34 มากิโน (ประเทศไทย) 20,408
35 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 20,289
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 20,120
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 19,728
38 SAMWHA THAILAND 19,659
39 วอยก้า จำกัด 19,454
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 18,863
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 18,644
42 I-Mechanics Co.,Ltd. 18,575
43 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 18,548
44 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 18,490
45 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 18,385
46 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 18,362
47 Systems integrator 17,932
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 17,900
49 Advanced Technology Equipment 17,724
50 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 17,685
18/09/2552 23:10 น. , อ่าน 10,430 ครั้ง
Bookmark and Share
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้าน CAD/CAM
โดย : Admin

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้าน CAD/CAM  

 

เรียบเรียงโดย   อ. รุ่งศักดิ์ นาวงษ์    

 

     

 

 

               การนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบและเขียนแบบ มีชื่อเรียกว่า CAD ย่อมาจากคำว่า Computer Aided Design and Drafting โดยทั่วเป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับงาน 3 ประเภทคือ 

                   1. งานเขียนแบบ 
                   2. งานเขียนวัตถุ 3 มิติ และ 
                   3. งานทางด้านการสร้างภาพเหมือนจริงทั้งแบบภาพอยู่นิ่งและภาพเคลื่อนไหว


 

 

           การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับงานเขียนแบบ เป็นการนำ CAD Technology มาใช้กันอย่างกว้างขวางมากเพราะสามารถใช้ได้กับงานเขียนแบบทุกสาขา ซึ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีให้เลือกใช้มีทั้งที่สามารถใช้ได้กับงานทุกประเภท และผลิตมาให้ใช้เฉพาะงานแต่ละสาขา ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะเป็นโปรแกรมที่มีคำสั่งต่าง ๆที่ใช้ในการเขียนแบบอย่างครบครันเช่น          
 

  • คำสั่งที่ใช้ในการเขียนรูปทรงพื้นฐานต่าง ๆ เช่น จุด เส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม วงรีรูปหลายเหลี่ยม เป็นต้น
  • คำสั่งในการแก้ไข ดัดแปลงรูปร่างของรูปทรงพื้นฐาน เช่น ลบ ตัด ยืด มนมุมลบมุม เป็นต้น
  • คำสั่งช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น เช่น การเคลื่อนย้าย การคัดลอก การทำสำเนาแบบต่าง ๆ เป็นต้น
  • นอกจากนั้นยังมีคำสั่งที่เกี่ยวกับการบอกขนาด รวมทั้งสัญลักษณ์ต่าง ๆที่ต้องใช้ในการเขียนแบบ และคำสั่งอีกมากมายที่อำนวยความสะดวกให้การเขียนแบบเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว
     

     ประโยชน์โดยตรงในการนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเขียนแบบนั้นมีดังนี้
                     1. ทำให้การเขียนแบบเป็นไปอย่างง่ายดาย สวยงาม และรวดเร็วมาก
                     2. การแก้ไขแบบสามารถกระทำได้โดยง่ายจากฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว
                    3. การจัดเก็บใช้พื้นที่น้อยและสามารถส่งไปยังที่ใด ๆ ได้โดยผ่านทาง Internet    
 


        การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับงานเขียนวัตถุ 3 มิติหมายถึงการเขียนวัตถุ 3 มิติที่แท้จริงขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ ซึ่งวัตถุ 3 มิติเหล่านี้จะเป็นแบบจำลองที่เป็นตัวแทนทางความคิดของผู้ออกแบบที่ต้องการให้สิ่งที่ออกแบบไว้ปรากฏเป็นรูปธรรมมากที่สุด ลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะเป็นโปรแกรมที่มีคำสั่งต่าง ๆที่ใช้ในการสร้างและแก้ไข รวมทั้งการแสดงผลรูปทรง 3 ม ิติอย่างครบครัน เพียงแต่ผู้ใช้ต้องประยุกต์ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับงานของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน โดยทั่วไปวัตถุ 3 มิติจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ วัตถุ 3 มิติ ที่มีแต่เส้นโครงร่าง วัตถุ 3 มิติที่เป็นทรงตัน และวัตถุ 3 มิติที่เป็นพื้นผิว
 

      โดยทั่วไปการเขียนวัตถุ 3 มิติจะเป็นงานทางวิศวกรรมที่ต้องการผลลัพธ์เป็นรูปร่างลักษณะที่เป็นไปตามจุดประสงค์ในการใช้งานเท่านั้น แต่สำหรับงานทางศิลปกรรมมีความต้องการมากไปกว่านั้นคือต้องการแสดงผลให้วัตถุ 3 มิติมีความเหมือนจริงมากที่สุดทั้งในด้านรูปร่าง สี ของวัสดุที่ใช้ ลักษณะของพื้นผิวของวัสดรวมทั้งสภาพแวดล้อมต่าง ๆเพื่อเพิ่มคุณค่าทางความรู้สึกและช่วยให้จินตนาการของลูกค้า และผู้ออกแบบมีความสอดคล้องกันดังนั้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยงานด้านนี้จึงมีคำสั่งใช้ผู้ใช้สามารถกำหนดวัสด ุและลักษณะของพื้นผิวรวมทั้งการจัดการสภาพแวดล้อมให้ผสมกลมกลืนกันจนสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นภาพถ่ายจากของจริงหรือภาพ ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นยังสามารถทำให้วัตถุ 3 มิติเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวไปมาเหมือนของจริงได้อีกด้วย   
 

         สำหรับการนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการผลิตนั้นมีชื่อเรียกว่า CAM ย่อมาจากคำว่า Computer Aided Manufacturing  โดยทั่วเป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วยการทำงานของเครื่องจักรกลอัตโนมัติได้แก่ เครื่องกัดอัตโนมัติ เครื่องกลึงอัตโนมัติ เครื่องตัดด้วยลวดอัตโนมัติเป็นต้นตามปรกติเครื่องจักรกลอัตโนมัติจะทำงานตามคำสั่งที่เขียนไว้ในชุดคำสั่งหรือที่เรียกว่า NC Program ซึ่งชุดคำสั่งเหล่านี้จะประกอบไปด้วยคำสั่งที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของเครื่องมือตัด ให้ตัดงานตามที่ต้องการทั้งรูปร่างและขนาด คำสั่งในการเปิดปิดอุปกรณ์ช่วยงานในส่วนอื่น ๆ เช่นปั๊มนํ้าหล่อเย็น SPINDLE เป็นต้น แต่เดิมผู้ควบคุมเครื่องหรือช่างเทคนิคจะเป็นผู้เขียนโปรแกรมเหล่านี้ด้วยตนเองซึ่งนอกจากจะทำให้เสียเวลาในการทำงานเป็นอย่างมากแล้วยัง อาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้หากผู้เขียน โปรแกรมอ่านแบบผิดหรือเขียนโปรแกรมผิดโดยไม่เจตนาหรือในบางกรณีอาจเป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะเขียนโปรแกรมเองโดยเฉพาะเส้น ทางเดินของเครื่องมือตัดที่ตัดงานเป็นรูป 3 มิติ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงมีการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยงานดังกล่าว โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะสามารถสร้าง NC Program ที่ต้องการจากวัตถุ 3 มิติที่สร้างไว้แล้วก่อนหน้านี้   
     

         และทุกวันนี้เทคโนโลยีทางด้าน CAD/CAM ได้กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่เกือบทุกโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำมาใช้เพื่พัฒนาขีดความสามารถในการ ทำงานให้มีประสิทธิภาพสูง ขึ้นแต่ปัญหาที่พบก็คือการขาดแคลนบุคลากรที่จะเป็นผู้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ดังนั้นการฝึกอบรบอย่างมีประสิทธิภาพจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้บุคลากรขององค์กรนั้น ๆ กลายเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ  
 

 

 

 

========================================================

 

 

 

14 December 2025
:: MEMBER LOGIN
E-mail Account
Password
:: OUR SPONSORS
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD
LZD